ไม่รู้เป็นอะไร ทำไมคนสมัยนี้ถึงได้คลั่งการเล่นกีฬา เมื่อก่อนมีแต่คนสูงวัย อากง อาม่า มารำไทเกกที่สวนลุม เดี๋ยวนี้เราจะเห็นคนรุ่นใหม่ออกมาวิ่ง หรือปั่นจักรยานกันมากขึ้น บ่งบอกถึงการใส่ใจสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้นด้วย จะว่าไป เรื่องของเทรนด์ใส่ใจสุขภาพ ก็มีทั้งคนวัยทำงาน วัยเรียน วัยรุ่น เด็กเล็กๆก็เริ่มมาวิ่งกับคุณพ่อคุณแม่ เป็นภาพที่น่ารักซะไม่มี แต่กับสาวร่างใหญ่ ที่มีร่างกายอุดมไปด้วยไขมัน การออกมาวิ่งก็เป็นเรื่องของการท้าทายตัวเอง เพราะมันไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย มันยังมีผลที่ตามมาอีกด้วย ใครที่กำลังวิ่งลดน้ำหนักคงจะเข้าใจ มาดูกันเลยค่ะ ว่าสาวไซส์ใหญ่ที่รักในการวิ่ง กำลังพบกับปัญหาอะไร
ปัญหาที่มาเป็นอย่างแรก คือเรื่องของความปวดตึงกล้ามเนื้อ อันนี้มันเป็นของธรรมดาอยู่แล้ว แต่สำหรับสาวบิ๊กไซส์ จะมากกว่าเป็น 2 เท่า เพราะต้องแบกน้ำหนักตัวเองไปด้วยในขณะวิ่ง ขาจังกลายเป็นส่วนที่ทำงานหนักมาก อาการปวดรองช้ำจึงมักมาทักทายสาวเหล่านี้อยู่บ่อยๆ ส้นเท้าที่รับน้ำหนักมากเกินไป และร่างกายที่หนักเกินมาตรฐาน เลยทำให้ขาล้ากว่าเดิมนั่นเองค่ะ
ปวดขาไม่เท่าไหร่ สูงไปอีกนิดที่จิมิก็มีปัญหาเหมือนกันจ้า การวิ่งในสภาพอากาศร้อน และต้นขาที่เสียดสีกันกับตะเข็บกางเกง ทำให้เกิดอาหารที่เรียกว่า “ยางแตก” ผิวหนังช่วงต้นขาด้านในจะเกิดการถลอกและบวมแดง เจ็บแสบจนเดินไม่ไหว บางรายหนักกว่านั้น กางเกงในบาดหีไปอีกจ้า เพราะเหงื่อที่ออกมาไม่มีหยุด กับขอบกางเกงในที่นูนขึ้นมา จึงไปเสียดสีน้องสาว เจ็บแสบกลับบ้านแบบ 2 ต่อ เจ๊จะบอกเคล็ดลับให้ค่ะว่าควรทำอย่างไร ต้องเปลี่ยนเป็นกางเกงสำหรับออกกำลังกายที่ไม่มีตะเข็บ และต้องทาวาสลีนที่โคนขาเอาไว้ เวลาวิ่งจะได้ลื่นปรื๊ด และขาไม่เสียดสีกันโดยตรงด้วยล่ะเธอ ส่วนใครที่มีปัญหานี้อยู่ ก็ต้องใช้ยาทาเพื่อลดการอักเสบ และทาแป้งเย็น หรือแป้งเด็กเพื่อให้ผิวหนังแห้ง สะอาด ลดการอักเสบไปด้วย
ถึงแม้การวิ่งสำหรับสาวอวบระยะสุดท้าย จะยากไปนิด แต่การวิ่งก็จะช่วยให้ไขมันสลายตัวได้เร็ว ใครที่อยากจะวิ่งแต่กลัวร่างกายไม่ไหว ให้เปลี่ยนเป็นการเดินเร็ว เพื่อเซฟหัวเข่าจะดีกว่า พอร่างกายเริ่มรับไหว ค่อยเปลี่ยนเป็นวิ่งเหยาะๆ และค่อยไปสู่การวิ่งเก็บระยะ แบบนี้จะได้ผลมากกว่านะจ๊ะ อย่าคิดว่าร่างกายจะรับการออกกำลังกายได้ทุกอย่าง ของแบบนี้ต้องให้เวลาร่างกายได้ปรับตัวด้วย จากเดิมที่ไม่เคยออกแรง ก็ลองลุกขึ้นมาออกแรงดูบ้าง เพื่อสุขภาพนะคะสาวๆ